ตำแหน่ง Assistant Sound Engineer

บริษัท Cine DigitalSoundstudio

ที่อยู่บริษัท 625 ชั้น9 อาคารทัศนียา ถนนประชาอุทิศ ซอย รามคำแหง 39 วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

เงินเดือน สำหรับสมาชิกเท่านั้น

ลักษณะงานที่ทำ
เสียงประกอบโฆษณา
เป็นการเตรียมประกอบชิ้นส่วน(เสียงต่างๆที่ควรจะมี)เพื่อเติมอารมณ์ให้กับหนังโฆษณา ในจุดต่างๆที่ยังขาดอยู่ เพื่อทำให้หนังโฆษณานั้นมีความพร้อมที่จะ
บันทึกเสียงพากย์ของโฆษกและปรับแต่งให้ถูกใจผู้กำกับและลูกค้า Product
- Sync Sound เสียงที่กองถ่ายได้บันทึกมาขณะถ่ายทำ หาเทคที่ดีและดูเหมาะสมกับภาพที่สุด เช่นเสียง Dialog(เสียงพูด)ของตัวละครนั้นๆ
-Sound Ambient เสียงบรรยากาศรอบข้างตามภาพในแต่ละ Scene ของหนังเพื่อความรู้สึกที่จริง
- Sound Foley เสียงประกอบต่างๆทั่วไปเช่น เสียงเดิน,วิ่ง,นั่ง,ล้ม,กินข้าว,ดื่มน้ำ,เปิด-ปิด ประตู ตามสถานที่และอิริยาบทของตัวละครที่อยู่ในแต่ละ Scene เพื่อให้รู้สึกว่าเป็นเสียงที่เกิดจากอิริยาบทของตัวละครนั้นๆ(ซึ่งใน Sync Sound อาจจะมีแต่ไม่ชัด จึงต้องทำเพื่อที่จะเพิ่มเสียงในจังหวะนั้นๆให้ชัดแบบรู้สึกว่าจริง ไม่ใช่ภาพอีกอย่างเสียงอีกอย่าง
- Sound Design เสียงประกอบที่จะสามารถรอยเรียงไปกับภาพได้โดยไม่รู้สึกแปลกหรือไม่เข้ากับภาพที่บางโฆษณาอาจจะทำมาเป็นภาพ CG ซึ่งก็จะหาเสียงที่จะประกอบกับภาพแล้วเข้ากันได้ยาก จึงต้องใช้จินตนาการความคิด,ความรู้สึกหรือเสียงที่อยู่ในหัวประมาณว่าเรามองภาพใน Scene แล้วในหัวหรือในความคิดเราจะมีเสียงที่สามารถรอยเรียงไปกับภาพได้เป็นอย่างดี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Sound Design ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากการนำเสียงแต่ Track มาผสมกันบวกกับ Edit หัวท้ายโดยไม่ได้จำกัดจำนวนว่าต้องใช้เสียงกี่เสียงกี่แบบ
- Sound Score Music เพลงประกอบโฆษณา ถ้าหากได้มาพร้อมกับหนังโฆษณาก็จะทำให้ทำงานได้ง่าย เพราะเราจะได้รู้ทั้งจังหวะของเพลง ซึ่งมีผลต่อการคิด Sound Design และการเพิ่ม-ลดเสียงของเพลงเพื่อหลบให้เสียงพากย์นั้นได้ยินชัดและไม่ไปกวนกันกับเสียงพากย์
- Balnce Level จัดการเพิ่ม-ลดเสียงต่างๆทั้งหมดในงานให้เหมาะสม ซึ่งบางจังหวะของหนังโฆษณานั้น ความดัง-เบา อาจจะต้องทำให้รู้สึกเสมือนจริงและไม่เสมือนจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับจังหวะและประเด็นที่หนังโฆษณาต้องการสื่อไปให้ถึงผู้ชม
- ส่งงานที่เตรียมไว้แล้วให้ Sound Engineer
ดูและตรวจเช็คว่าขาดเหลืออะไรตรงไหน
ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว Sound Engineer ก็จะทำการ Mixing ไปในระดับนึง ก่อนที่จะบันทึกเสียงพากย์ของโฆษก
- วันขายงาน คือวันที่โปรดิวเซอร์ที่ดูแลงานนั้นๆได้จองคิวไว้เพื่อบันทึกเสียงพากย์ของโฆษกและเป็นการขายงานในขั้นตอนสุดท้ายงานให้กับลูกค้า Product (ทีมงานเจ้าของแบรนด์)
- จัดวางระดับความสูงของไมค์ตามความสูงของโฆษกเพื่อให้ไมค์อยู่ในระดับที่รับเสียงได้ดีที่สุด และจัดวางบทพากย์ให้โฆษกเห็นชัดเพื่อให้อ่านได้ง่ายและป้องกันเสียงขยับกระดาษที่อาจเข้าไมค์ในขณะพากย์เสียง
- ขณะขายงาน ดูและคอยซัพพอร์ต คอยช่วยให้ Sound Engineer ทำงานได้ง่ายขึ้น
เช่น ผู้กำกับอยากให้เสียงหกล้มของตัวละครนั้นรู้แรงกว่า จุกกว่า ก็อาจจะต้องหาเสียงล้มที่โทนต่ำกว่าเดิม หรือผสมเสียงล้มต่างๆ 3-4 Track ให้เป็นเสียงเดียวที่ฟังแล้วรู้สึกเจ็บตามที่ผู้กำกับหนังต้องการ
- หลังจากการขายงานผ่านไปได้อย่างสบายๆ ก็มีหน้าที่ที่ต้องทำคือการทำ Mastering เพื่อจัดการมวลความอิ่มของเสียง,ความดัง-เบาและย่านความถี่ต่างๆของเสียงที่บางครั้งอาจจะมีเยอะเกินไปจนไม่น่าฟังหรือน้อยเกินไปจนไม่รู้สึก และก็ระดับความดังทั้งหมด (ทุกๆเสียงทุกๆ Track) ของหนังนั้นมีความพอดี ชัดเจน ไม่ดังเกินไปหรือเบาจนเกินไป มีความน่าฟังและพอดีกลมกลืนไปทั้งภาพและเสียง
- สุดท้ายของงานก็คือ File เสียงที่เราจะต้องส่งให้โปรดิวเซอร์ของงานนั้นนำไปต่อส่งให้ลูกค้าเจ้าของ Product (เจ้าของแบรนด์)เพื่อ
นำไปออนแอร์ ซึ่งในแต่ละช่องก็จะกำหนดค่าระดับความดัง-เบาของตัวหนังโฆษณาต่างกันไม่ว่าจะเป็น ช่อง 3,5,7,9 และช่องที่เป็น Online ก็จะกำหนดค่าความดัง(ดังที่สุด)ไว้ต่างกันซึ่งรวมไปถึงหน่วยวัดความดังด้วย เช่น หน่วยเป็น dB และหน่วยที่เป็น LUFS จึงต้องทำ File ที่จะส่งนั้นตรงตามสเปคของช่องต่างๆที่ลูกค้าจะนำไปออนแอร์ เพราะถ้าหากไม่ทำให้พอดีกับสเปคที่แต่ละช่องกำหนดมา หากความดังเกินที่ช่องกำหนดไว้เช่น ช่อง3 กำหนดให้ระดับความดังของเสียงไม่เกิน -14LUFS 4 Chanal หากลูกค้าไม่แจ้งแล้วนำ File Master ส่งไปให้ช่อง3 ซึ่งค่าความดังของ Master จะอยู่ที่ - 3 dB จนถึง -0.2 dB และเป็น Stereo 2 Chanal
(โดยส่วนใหญ่) เมื่อ File ที่ส่งไปมีความดังมากเกินที่ช่องนั้นๆกำหนดไว้ File อาจจะถูกตีกลับไม่สามารถใช้ได้หรือทางทีมเสียงของช่อง3 ก็ต้องทำการลดความดังของตัวหนังโฆษณานั้นๆลง ซึ่งช่องอาจจะลดความดังลงตามที่ช่องกำหนดไว้หรืออาจจะลดความดังลงมากกว่า ซึ่งส่งผลเสียให้กับหนังโฆษณานั้นๆแน่นอนเช่นภาพสวยแต่เสียงเบาไปมากฟังไม่รู้เรื่อง
- เมื่องานขายเสร็จแล้วก็จะถามโปรดิวเซอร์ว่าต้องการ File เพื่อไปใช้ออนแอร์ช่องทางไหนบ้าง จะได้ทำให้สเปคนั้นตรงตามความต้องการของลูกค้า

ตำแหน่ง Sound Foley Records, Foley Artist

บริษัท ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา

ที่อยู่บริษัท 130,132 หมู่บ้านรามอินทรานิเวศน์ ซอย 67 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230

เงินเดือน สำหรับสมาชิกเท่านั้น

ลักษณะงานที่ทำ
Sound Foley Recording
- บันทึกเสียงประกอบภาพยนตร์
- ดูภาพจากในหนังให้ละเอียด เช่นรองเท้าที่พระเอกใส่ พื้นผิวของถนนที่พระเอกเดินไปหานางเอก,แก้วน้ำที่เสี่ยหยิบยกดื่มและวางลงบนโต๊ะกระจก,รถพระเอกที่ถูกยิง เป็นต้น ที่ต้องดูให้ละเอียดเพราะหนังภาพยนตร์ส่วนใหญจะเน้นความเสมือนจริงทั้งภาพและเสียง แต่การบันทึกเสียงในขณะถ่ายทำก็มีที่สามารถนำมาใช้ได้และไม่ได้ด้วยที่บางจังหวะต้องการบันทึกเสียง Dialog (เสียงพูดขอตัวละครในเรื่อง) ซึ่งไม่สามารถเพิ่ม-ลดเสียงประกอบรอบข้างได้(บ้างก็ลบทิ้งไปเลย เอาไว้แค่เสียงพูด) จึงต้องมีการทำเสียงประกอบต่างๆขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ได้อรรถรสเพิ่มขึ้น บันทึกเสียงประกอบทุกๆเสียง ที่เห็นตามภาพหรือไม่เห็นก็ตามแต่ เช่นโจรใส่รองเท้าบูทเดินจากฝั่งซ้ายจอไปอีกฝั่งของจอหรือจนหลุดจอไปแล้ว แต่ยังต้องมีเสียงเดินต่ออีก 2-3 เก้า เพื่อให้หนังมีความ Continue หรือมีความต่อเนื่องกันอยู่
- เข้าไปมีส่วนร่วม Foley Artist เริ่มตั้งแต่จัดวางไมค์ หยิบจับ,เดิน ตามภาพและให้รู้สึกถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่นพระเอกใส่รองเท้าหนังแบบพนักงานออฟฟิศ เดินบทพื้นคอนกรีตแล้วเดินเลี้ยวตัดสนามหญ้าเพื่อไปหานางเอก
- หลังจากบันทึกเสียง Foley เสร็จแล้วก็ทำการขยับเสียงต่างๆที่บันทึกไว้ให้ตรงกับภาพและจังหวะต่างๆให้หนัง เช่นขยับเสียงเดินแต่ละก้าวให้ Sync กับภาพและเหมือนจริงที่สุด เหมือนเป็นเสียงที่บันทึกได้ในกองถ่าย
- ส่งงานต่อให้พี่อีกคนที่มีหน้าที่ Mix หนังทั้งหมด

สถาบัน บริษัทดาราวิดีโอ

หลักสูตร ฝึกการตัดต่อวิดีโอของละครหลังข่าวช่อง7 และฝึดฝนและทดลองผสมเสียงรายการฟ้ามีตา สำหรับออกอากาศ

สถาบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

หลักสูตร Special Study In Multimedia Technology (วิชาชีพเฉพาะทาง) เรื่องการผลิตสื่อสารคดี ศิลปะในการเลือกไม้ สู่เครื่องดนตรีสากล (กีตาร์โปร่ง) ผลงาน : https://youtu.be/CMAXZYwsMzI?si=GM6TWIYj8_zfisou